หลังจากที่คุณขับรถลุยน้ำท่วมผ่านไปได้แล้ว สิ่งสำคัญคุณต้องคอยตรวจสอบเครื่องยนต์ให้ดี เช่น ระบบเบรก เกียร์ ระบบกรองอากาศ ไดสตาร์ท และสายไฟต่างๆ หากอย่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ น้ำฝนอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาอ่านวิธีดูแล รถหลังน้ำท่วม กันเลยดีกว่า
1. ตรวจเช็กระบบเบรกและคลัชต์ หลังจากลุยน้ำท่วม ให้เหยียบเบรกเป็นระยะๆ เพื่อไล่น้ำและความชื้น เนื่องจากเมื่อผ้าเบรกเปียกน้ำจะทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกลดลง รวมไปถึงอาจเกิดสนิมที่ชิ้นส่วนหรือจุดข้อต่อต่างๆ ได้ และนอกจากจะเหยียบย้ำเบรกแล้ว ระบบคลัชต์ก็เป็นอีกระบบที่ควรจะต้องทำการเหยียบย้ำคลัชต์ด้วยเช่นกัน เพราะระหว่างที่ลุยน้ำ น้ำมีโอกาสเข้าไปที่ห้องคลัชต์ ดังนั้น เมื่อพ้นเขตที่น้ำท่วม จึงควรเหยียบย้ำคลัชต์ด้วยเช่นกัน วิธี คือ ขับรถให้ช้า หรือ หยุดรถในที่ที่ปลอดภัย แล้วทำการเหยียบย้ำที่แป้นเบรก และแป้นคลัชต์ ถี่ๆ เพื่อไล่น้ำและความชื้น
2. เช็กภายในห้องโดยสาร เทคนิคการดูแลรถ หลังจากลุยน้ำท่วมมา ถ้าระดับไม่สูงมาก จุดนี้ก็ไม่น่าห่วง แต่ถ้าลุยน้ำที่ค่อนข้างลึก ระดับน้ำท่วมถึงขอบประตู แนะนำให้ลองตรวจเช็กพรมที่ปูพื้นภายในห้องโดยสาร ว่ามีคราบน้ำเปียกชื้นหรือไม่ เพราะถ้ามีความเปียกชื้นหรือคราบน้ำ อาจจะส่งผลถึงอายุการใช้งานพรม รวมไปถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์จากความอับชื้น
3. เช็กการทำงานไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไฟสัญญาณต่างๆ หลังจากลุยน้ำท่วมมา ควรจะตรวจเช็คระบบไฟต่างๆ ว่ายังสามารถใช้ได้อยู่หรือไม่ มีน้ำรั่วเข้าไปที่โคมไฟ หรือขั้วไฟโดนน้ำแล้วช็อต ทำให้ไฟไม่ติดหรือไม่ เพราะสัญญาณไฟต่างๆ เป็นส่วนที่สำคัญต่อความปลอดภัย ทั้งให้ความสว่าง การมองเห็นในการขับขี่ยามค่ำคืน เป็นสัญญาณเพื่อสื่อความต้องการของเราให้กับรถคันอื่นๆ เช่น ต้องการเลี้ยวซ้าย ต้องการถอยหลัง
4. เช็กน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ อีกจุดที่สำคัญสำหรับน้ำมันของเหลวต่างๆ เพราะถ้าหากมีน้ำเข้าไปปนในระบบอาจจะส่งผลมากมาย เช่น ประสิทธิภาพของการทำงานของระบบนั้นๆ ที่จะลดลง ชิ้นส่วนในระบบนั้นๆ อาจจะเกิดสนิม หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ น้ำที่ปนอยู่ในระบบหนึ่ง อาจจะส่งผลต่อระบบ ชิ้นส่วนอื่นๆ ให้เสียหายตามไปด้วย วิธีการตรวจเช็ค สำหรับน้ำมันเครื่อง ให้ดึงเหล็กวัดน้ำมันเครื่องออกมาดูว่า น้ำมันที่ติดอยู่บนก้านเหล็กวัด ส่วนน้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ให้เปิดฝาถังพักน้ำมันดู ว่าน้ำมันมีน้ำปนอยู่หรือไม่ โดยถ้ามีน้ำปนอยู่กับน้ำมัน สีของน้ำมันจะออกเป็นสีน้ำตาลคล้ายกาแฟ หรือ มีสีขาวขุ่น เหมือนนม ถ้าเจอลักษณะแบบนี้ให้รีบเปลี่ยนถ่ายออกทันที
5. เช็กเพลา เฟืองท้าย และจุดอัดจารบีต่างๆ จุดนี้ก็เป็นอีกจุดเสี่ยงที่มักจะได้รับผลกระทบจากการลุยน้ำเป็นประจำ เนื่องจากตำแหน่งของชิ้นส่วนเหล่านี้ จะอยู่ค่อนข้างต่ำ ยิ่งถ้าระดับน้ำท่วมสูงมิดใต้ท้องรถเกินกว่าระดับท่อหายใจของเฟืองท้าย ยิ่งทำให้น้ำเข้าสู่ระบบได้ง่ายมาก ซึ่งเมื่อน้ำเข้าไปในเฟืองท้าย จะทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพ ส่วนจุดอัดจารบีต่างๆ ก็เช่นกัน เมื่อโดนน้ำจะทำให้จารบีเสื่อมสภาพเช่นกัน
ดังนั้น คุณควรดูแลรักษารถหลังจาก รถหลังน้ำท่วม มิเช่นนั้นรถของคุณอาจพัง และต้องจ่ายค่าซ่อมรถโดยใช่เหตุ ซึ่งคุณสามารถนำรถไปตรวจสภาพเพื่อความสบายใจ เพราะช่างจะตรวจสอบ พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษารถของคุณ เพียงเท่านี้ก็หมดความกังวลใจแล้ว
รู้ปัญหาที่แท้จริงของอาการเสีย ซ่อมได้ทุกอาการ เบนซ์วงศ์สว่าง ..ทางเลือก....ของคนฉลาดเลือก
- โทรเลย : 090-9234000
- โทรเลย : 0909530000
- FACEBOOK : benzwongsawang